ภาษาและวัฒนธรรม
วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558
บทที่ 3
B
A 13-year study of
early childhood development at Harvard University has shown that, by the age of
three, most children have the potential to understand about 1000 words - most
of the language they will use in ordinary conversation for the rest of their
lives.
Furthermore, research
has shown that while every child is born with a natural curiosity, it can be
suppressed dramatically during the second and third years of life. Researchers
claim that the human personality is formed during the first two years of life,
and during the first three years children learn the basic skills they will use
in all their later learning both at home and at school. Once over the age of
three, children continue to expand on existing knowledge of the world.
v Main Idea
Early Childhood Development shown that children have the potential to
understand language in communication and children have a natural curiosity of life.
v Supporting
Details
Research has study of early childhood development a 13-year.
Children have the potential to understand language more 1,000 words in conversation. Every child a natural of
curiosity dramatically during the second and third years. Researchers claim
that the human personality in two and first three years children learn the
basic skills at home and at school.
วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558
บทที่4
เรื่อง “สอบติดที่มหาลัยวงษ์ชวลิตกุล”
-
ณ ตอนนั้นฉันสอบติด ที่มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จึงได้มาเรียนที่นี้
ตั้งอยู่ที่โคราช และฉันได้เลือกเรียนคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย และฉันคิดว่าการเรียนครูปฐมวัยนั้นต้องสนุกสนาน
ไม่เรียนยากหนักหรอก ต้องมีเพื่อนๆ ที่น่ารักมากเลย และคงจะได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่
ได้เยอะ
-
หลังจากได้เข้ามาอยู่ในมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลนั้น
ส่วนมากจะเรียกกันว่า “ มหาวิทยาลัยไฮไซ ”
เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งแรกในโคราชและเป็นมหาวิทยาลัยของ”
เอกชน “ ด้วยซิ ฉันได้รู้จักเพื่อนมากมายและได้รู้ว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้
เป็นมหาวิทยาลัยค่าเทอมแพงที่สุด
-
แล้วฉันก็เริ่มคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่
มาก ฉันกลัวว่าฉันมาเรียนที่นี้ค่าใช้จ่ายในการศึกษานั้น แพงไปไหม
ฉันเริ่มวิตกกังวลในเรื่องค่าเทอม
ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน กลัวว่าไม่มีตังค์ใช้จ่าย และเสียค่าเทอม
-
และแล้วฉันก็รู้ว่าทางมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลนั้น
มีให้นักศึกษาสามารถกู้ค่าเล่าเรียนค่าเทอมได้ ฉันเลย
คิดว่าถึงจะค่าเทอมแพงเท่าใด
มากน้อยเพียงใด ฉันก็จะตั้งใจเรียนให้จบได้รับใบปริญญาตรี จบไปเป็น
“ ครูปฐมวัย ” หรือเรียกกันว่า “ ครูอนุบาล “ ตามความฝันของฉัน
-
การที่คนเราจะเลือกเรียนมหาวิทยาลัยใด ก็ตาม หรือจะเป็นของเอกชน
ที่ว่าค่าเทอมแพงที่สุด ไม่จำเป็นว่า
มหาวิทยาลัยนี้ค่าเทอมแพงสำหรับคนรวยมันไม่ใช้ คนจนก็สามารถเรียนได้ท่ามีความรู้อยู่ในตัว
ถ้าเราเรียนจบมีการ
มีงานทำ เราก็จะสามารถใช้หนี้จากน้ำพักน้ำแรงของเราเอง สามารถเลี้ยงพ่อ แม่
ได้ด้วย
ไม่ต้องว่าเรียนจบไปเสียตังค์ไปตั้งมากมาย นั้นจะมีการงานทำไหมล่ะ เราต้องเอาความรู้ที่เรามี
ไปสอนเด็กให้เด็กเป็นคนดีของสังคมไทยก็พอ และเราต้องภาคภูมิใจในสิ่งที่เราได้เรียนมา
ทำให้พ่อแม่และ
พี่น้อง ญาติๆ
ทั้งหลายร่วมแสดงความภาคภูมิใจความสำเร็จของตัวเรา
วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558
1. ความหมายของภาษา
บันลือ พฤกษะวัน(2522, หน้า 5) ได้ให้ความหมายของภาษาไว้ว่า “คือเครื่องมือที่ใช้สื่อความหมายที่สำคัญที่สุดของมนุษย์” เมย์ (MAY, อ้างถึง บันลือ พฤกษะวัน ,2533, หน้า5)ได้กล่าวถึงภาษาว่า การที่มนุษย์ใช้ภาษาสื่อความหมายกันได้ ย่อมเป็นเครื่องแสดงว่ามนุษย์ประเสริฐกว่าสัตว์ นอกจากนี้ ศุภวัตน์ ชื่นชอบ ได้ให้ความหมายของภาษาไว้ว่า ภาษาคือเครื่องมือการสื่อสาร (2524, หน้า1)และพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน(2530, หน้า203)ได้ให้ความหมายของภาษาไว้ดังนี้ ภาษา หมายถึง เสียงหรือกริยาอาการที่เป็นสื่อเข้าใจความหมายรู้กันได้,คำพูด,ถ้อยคำที่ใช้พูดจากัน โดยสรุปแล้วภาษาก็คือเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันได้
https://www.gotoknow.org/posts/212080
บันลือ พฤกษะวัน(2522, หน้า 5) ได้ให้ความหมายของภาษาไว้ว่า “คือเครื่องมือที่ใช้สื่อความหมายที่สำคัญที่สุดของมนุษย์” เมย์ (MAY, อ้างถึง บันลือ พฤกษะวัน ,2533, หน้า5)ได้กล่าวถึงภาษาว่า การที่มนุษย์ใช้ภาษาสื่อความหมายกันได้ ย่อมเป็นเครื่องแสดงว่ามนุษย์ประเสริฐกว่าสัตว์ นอกจากนี้ ศุภวัตน์ ชื่นชอบ ได้ให้ความหมายของภาษาไว้ว่า ภาษาคือเครื่องมือการสื่อสาร (2524, หน้า1)และพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน(2530, หน้า203)ได้ให้ความหมายของภาษาไว้ดังนี้ ภาษา หมายถึง เสียงหรือกริยาอาการที่เป็นสื่อเข้าใจความหมายรู้กันได้,คำพูด,ถ้อยคำที่ใช้พูดจากัน โดยสรุปแล้วภาษาก็คือเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันได้
อ้างอิง
https://www.gotoknow.org/posts/212080
สรุป
ความหมายของภาษา เป็นเครื่อมือใช้สื่อสาร โดยที่มนุษย์ใช้ภาษาเป็นกิจวัดประจำวัน ภาษาเป็นเสียงกริยาที่สื่อเข้าใจถึงความหมาย
2.ความสำคัญของภาษา
วัฒนธรรมไทยมีลักษณะเฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของตน การที่วัฒนธรรมไทยจะสืบทอดลักษณะ และรายละเอียดทั้ง มวล จาก อดีต มาถึงปัจจุบันและจากปัจจุบันที่จะสืบทอดต่อไปในอนาคตได้นั้น ก็ด้วยอาศัยภาษาเป็นเครื่องมือทั้งโดยการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และการเล่าจดจำสืบกันต่อมาจึงมีคำกล่าวว่า ภาษาไทยจึงเป็นหัวใจของวัฒนธรรม ถ้าปราศจากจากหัวใจคือภาษาเสียแล้ว วัฒนธรรมก็สืบทอดไม่ได้และต้องสูญหายไปโดยเร็วขณะที่ภาษาไทยทำหน้าที่สืบทอดวัฒนธรรมไทยนั้น ภาษาไทยยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในแง่เป็นเครื่องสื่อความหมายทางวัฒนธรรมด้วย
ความสำคัญของภาษา ภาษามีประโยชน์มากมาย ได้แก่ ภาษาช่วยธำรงสังคม ภาษาแสดงความเป็นปัจเจกบุคคล ภาษาช่วยให้มนุษย์พัฒนา ภาษาช่วยกำหนดอนาคต ภาษาช่วยจรรโลงใจ
.ภาษาช่วยธำรงสังคม
สังคมจะธำรงอยู่ได้มนุษย์ต้องมีไมตรีต่อกัน ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และระเบียบวินัยของสังคมและประพฤติตนให้เหมาะสมแก่ฐานะตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยภาษา คือ
– ภาษาใช้แสดงไมตรีจิตต่อกัน เช่น การทักทายปราศรัยกัน
– ภาษาใช้แสดงกฎเกณฑ์ของสังคมว่าคนในสังคมควรปฏิบัติตนอย่างไร เช่น ศีล ๕ เป็นแนวทางปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน
– ภาษาใช้แสดงความสัมพันธ์ของบุคคล แต่ละบุคคลมีฐานะ บทบาท และความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นต่างๆ กันไป การใช้ภาษาจึงแสดงฐานะและบทบาทในสังคมด้วย
มนุษย์อาศัยภาษาถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ต่อๆ กันมา ทำให้ความรู้แพร่ขยายมากยิ่งขึ้น มนุษย์ไม่ต้องเสียเวลาเรื่องทุกเรื่องใหม่ แต่สามารถพัฒนาค้นคว้าต่อให้เจริญก้าวหน้าต่อไป บางครั้งเมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันก็จะใช้ภาษาอภิปรายโต้แย้งกัน ทำให้ความรู้ความคิดเจริญงอกงามยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาษาเขียนจะช่วยบันทึกเรื่องราวความรู้ต่างๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป
.ภาษาช่วยกำหนดอนาคต
มนุษย์อาศัยภาษาช่วยกำหนดอนาคตในรูปแบบต่างๆ เช่น ทำแผน ทำโครงการ คำสั่ง สัญญา คำพิพากษา กำหนดการ คำพยากรณ์ ซึ่งจะเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ในบางกรณีสิ่งที่กำหนดล่วงหน้าไว้นี้อาจไม่เป็นไปตามนั้นก็ได้ เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน
. ภาษาช่วยจรรโลงใจ
การจรรโลงใจ คือ ค้ำจุนจิตใจให้มั่นคง ไม่ตกอยู่ในอำนาจฝ่ายต่ำ โดยปกติมนุษย์ต้อง
การได้รับความจรรโลงใจอยู่เสมอ มนุษย์จึงอาศัยภาษาช่วยให้ความชื่นบาน ให้ความเพลิดเพลิน เช่น บทเพลง นิทาน คำอวยพร ฯลฯ ทำให้สังคมดำรงอยู่ได้ด้วยดี ภาษามีความสำคัญสำหรับมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอิทธิพลต่อมนุษย์ด้วย ทั้งนี้ เพราะมนุษย์ไม่ได้คิดว่าภาษาเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ใช้แทนเท่านั้น เช่น การตั้งชื่อก็จะหลีกเลี่ยงคำที่มีเสียงคล้ายคลึงกับสิ่งไม่ดี สิ่งที่น่ารังเกียจ หรือมีความหมายไม่เป็นมงคล หรือการถูกนินทาก็จะเสียใจ ได้รับคำชมก็ดีใจ ดังกล่าวนี้ในบางครั้งมนุษย์ก็ยึดมั่นกับตัวอักษรโดยไม่พิจารณาเหตุผล การที่ภาษาช่วยจรรโลงจิตใจของมนุษย์จะช่วยให้สังคมอยู่ได้ด้วยดี ทำให้โลกสดชื่นเบิกบาน ช่วยคลายเครียด
3. ระดับของภาษา
1. เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ระดับภาษา ครูฮาดี บินดู่เหล็ม โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล
2. ระดับภาษา ระดับภาษา คือ การใช้ภาษาพูดหรือภาษาเขียน ในโอกาสที่แตกต่าง หรือใช้กับผู้รับสารแต่ละ บุคคลย่อมมีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันไป
3.ระดับภาษา ระดับที่เป็นทางการ ( แบบแผน ) ระดับที่ไม่เป็นทางการ ( ไม่เป็นแบบแผน ) ระดับทางการ ( แบบแผน ) ระดับกึ่งทางการ ( กึ่งแบบแผน ) ระดับไม่เป็นทางการ (ไม่เป็นแบบแผนหรือภาษาปาก ) ระดับพิธีการ ระดับทางการ ระดับกึ่งทางการ ระดับไม่เป็นทางการ : ระดับสนทนา ระดับปาก (กันเอง)
4. ระดับของภาษาแบ่งตาม การใช้ภาษาตามสัมพันธภาพ ของบุคคล ตามโอกาสและกาลเทศะ แบ่งออกเป็น ๕ ระดับ ภาษาระดับพิธีการ ภาษาระดับทางการ ภาษาระดับกึ่งทางการ ภาษาระดับสนทนา ภาษาระดับกันเอง
5. ๑. ภาษาระดับพิธีการ เป็นภาษาที่มีการเลือกสรรถ้อยคาในระดับสูง ไพเราะ สละสลวย โอกาสที่ใช้ภาษาระดับนี้จะเป็นงานพิธีที่มีความสาคัญ สัมพันธภาพระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสารจะเป็นในลักษณะการ สื่อสาร แบบทางเดียว เช่น คากราบบังคมทูลในงานพระราชพิธี พระบรมราโชวาท สุนทร พจน์ วรรณคดีมรดก เป็นต้น
6. ตัวอย่าง เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเจริญพระ ชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ปวงประชาชาวไทยขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัย ขอให้ สิ่งศักด์ิสิทธ์ิอันทรงมหาพลานุภาพทั้งหลาย จงโปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาทจงเจริญด้วยมิ่งมหาศุภสวัสด์ิ เจริญพระชนมพรรษานับหมื่น ๆ ศตพรรษ สถิตเสถียรเป็นร่มโพธ์ิทองของปวงประชาชาวไทย ตราบชั่วกัลปาวสาน ( ภาวาส บุนนาค . “ ราชาภิสดุดี ” ใน ภาษาพิจารณ์ เล่ม ๒, หน้า ๑๓๙.)
7. ๒. ภาษาระดับทางการ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาษาแบบแผน เป็นภาษาที่มีการเลือกสรรถ้อยคาอย่างถูกต้องตามแบบแผนของ ภาษาไทยที่ดี ใช้ถ้อยคาสุภาพ อาจมีการใช้ศัพท์ทางวิชาการปะปนอยู่ ด้วย เกิดขึ้นเนื่องจากตาแหน่งหน้าที่ หรือการติดต่อประสานงานที่เป็น ทางการเท่านั้น เช่น การเขียนรายงานทางวิชาการ งานวิจัย ตา รา บทความทางวิชาการ หนังสือราชการ เป็นต้น
8.ตัวอย่าง ขอพระบรมเดชานุภาพมหึมาแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชจง คุ้มครองประเทศชาติและประชาชนชาวไทยให้ผ่านพ้นสรรพอุปัทว์พิบัติภัยทั้ง ปวง อริราชศัตรูภายนอกอย่าล่วงเข้าทาอันตรายได้ ศัตรูหมู่พาลภายในให้วอด วายพ่ายแพ้ภัยตัว บันดาลความสุขความมั่นคงให้บังเกิดทั่วภูมิมณฑล บันดาล ความร่มเย็นแก่อเนกนิกรชนครบคามเขตขอบขัณฑสีมา
9. ๓. ภาษาระดับกึ่งทางการ เป็นภาษาที่ใช้เพื่อการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจกันด้วยความรวดเร็ว ลดความเป็นทางการลงบ้าง เพื่อให้เกิดความใกล้ชิดยงิ่ขึ้นระหว่างผู้ ส่งสารและผู้รับสาร มักใช้ในการปรึกษาหารือกิจธุระระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคล การ ประชุมกลุ่ม การปรึกษางาน การวางแผนร่วมกัน ฯลฯ มีการเปิดโอกาสให้ผู้รับสารมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นร่วมกับผู้ ส่งสาร เช่น วารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ บทบรรยายในนวนิยาย
10. ตัวอย่าง “… หนังเรื่องนี้มีโครงเรื่องหลักอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงของ ภูมิอากาศโลกในองค์รวม อันเป็นผลพวงจากปฏิกิริยาเรือนกระจก หรือ green house effect ซึ่งเกิดจากน้ามือมนุษย์โลกอย่างเราๆทั้งนั้น ไม่ว่า จะเป็นการเผาไหม้เชื้อเพลิงให้เกิดความร้อนและควันลอยขึ้นไปเกิดเป็น ชั้นห่อหุ้มโลกไว้ ส่งผลให้รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมายัง โลกสะท้อนกลับออกไปในห้วงอวกาศไม่ได้โลกเลยกลายเป็นเตาอบยักษ์ ที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ…” (ชาธร สิทธิเคหภาค, ๒๕๔๗: ๑๑๒)
11.๔. ภาษาระดับสนทนา (ไม่เป็นทางการ) เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีความสัมพันธ์ยังไม่ถึง ขั้นสนิทสนม ใช้เฉพาะการพูด การสนทนาในชีวิตประจาวัน เช่น การพูดจากัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนที่มาติดต่องาน หรือการแนะ นาตัวใน งานสังคม โดยที่บุคคลที่เกี่ยวข้องไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มักจะนาไปใช้ถ่ายทอดในงานเขียนเรื่องบันเทิงคดี เช่น บทสนทนา ในนวนิยายหรือเรื่องสั้น บทละคร การเขียนบันทึกส่วนตัว เป็นต้น
12.ตัวอย่าง บทความเรื่องเขาอีโต้ สถานีความมันเชิงเขาใหญ่ ในคอลัมน์BikeLine ความว่า “...ความตั้งใจในการเดินทางของผมครั้งนี้อยู่ที่การหาเส้นทาง ซอกแซกไปที่น้าตกเหวอีอ่า ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ความตั้งใจมิเป็นผล เมื่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่หน่วยพิทักษ์ป่าคลองเพกาปฏิเสธอย่างนิ่มนวลว่า ไม่ สามารถอนุญาตให้ขึ้นไปปั่นจักรยานได้ เนื่องจากยังไม่มีนโยบายให้ปั่น จักรยานขึ้นไปเที่ยวน้าตกเหวอีอา่ ซึ่งคงจะต้องรอไปอีกพักใหญ่ๆ เพราะอยู่ ในช่วงสารวจจัดทาเส้นทาง โดยทางอุทยานฯมีแนวคิดที่จะเปิดให้จักรยานเสือ ภูเขาขึ้นไปอยู่แล้ว แต่เมื่อไหร่ยังไม่ทราบ เป็นคา ปฏิเสธที่นุ่มนวล เราจึงได้แต่ น้อมรับโดยดี…” (หมูหวาน, ๒๕๔๗: ๗๒)
13.๕. ภาษาระดับปาก หรือภาษาระดับกันเอง เป็นภาษาที่ใช้ในวงจากัด ใช้กับบุคคลที่สนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นพิเศษ เช่น ระหว่างเพื่อนสนิท บุคคลในครอบครัว สื่อสารกันในเนื้อหาที่รับรู้กันได้เฉพาะคู่สนทนาเท่านั้น สถานที่ใช้มักเป็นที่ส่วนตัว เช่น ที่บ้าน เน้นความสนุกสนาน ไม่นิยมบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร สารที่สื่อถึงกันไม่มีขอบเขต แต่มักใช้ในการพูดจากันเท่านั้น อาจปรากฏอยู่ในบทสนทนานวนิยายหรือเรื่องสั้นเพอื่ความสมจริง บทความเสียดสีล้อเลียนในหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
14.ตัวอย่าง บทสนทนาจากนวนิยายเรื่องมายาตะวัน กล่าวว่า “เออ นังบ้า ไป ไปนั่งรวมกันที่เก้าอี้โน่น จาไว้ ถ้าคิดหนีฉันยิงจริงๆ ไอ้ชิด เอ็งดูนังสองตัวนี่ให้ดี ถ้ามันไปที่ประตูเมื่อไหร่ยิงมันได้เลย” เชนขู่เสียงเกรี้ยว (กิ่งฉัตร, ๒๕๔๙: ๔๖๒)
15.ภาษาแบบแผน ภาษาที่ เป็นทางการ ตัวอย่าง ภาษากึ่งแบบแผน ภาษากึ่งทางการ ภาษาปาก ภาษาไม่เป็นทางการ ขา้พเจ้า กระผม ดิฉัน ผม ฉนั เรา ผม ฉนั หนู บิดา คุณพ่อ พ่อ มารดา คุณแม่แม่ โรงภาพยนตร์ โรงหนัง โรงหนัง ใบอนุญาตขับรถยนต์ใบขับขี่ใบขับขี่ หนังสือรับรอง ใบรับรอง ใบรับรอง ดวงตราไปรษณียากร แสตมป์ แสตมป์ กรงุเทพมหานคร กรงุเทพ ฯ บางกอก ศีรษะ หัว กบาล ฌาปนกิจศพ ปลงศพ เผาศพ ประทับตรา ตีตรา ตีตรา ปั๊มตรา รับประทาน กิน ยัด แดก ซัด กิน ยัด แดก ซัด ดมื่สุรา ดมื่เหล้า กินเหล้า ถองเหล้า ซัดเหล้า
16.หลักการใช้ภาษาให้ถูกต้องตามระดับภาษา การใช้ภาษาระดับใดในการสื่อสารจึงจะเหมาะสมนั้น ควรพิจารณาดังนี้ ๑.สัมพันธภาพระหว่างบุคคล ๒. กาลเทศะ ๓. เนื้อของสาระ ๔. วิธีการสื่อสาร
อ้างอิง
ทักษะทางภาษาแบ่งทักษะออกเป็น 4 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนคุณลักษณะทั่วไป
ความหมายของภาษา เป็นเครื่อมือใช้สื่อสาร โดยที่มนุษย์ใช้ภาษาเป็นกิจวัดประจำวัน ภาษาเป็นเสียงกริยาที่สื่อเข้าใจถึงความหมาย
2.ความสำคัญของภาษา
วัฒนธรรมไทยมีลักษณะเฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของตน การที่วัฒนธรรมไทยจะสืบทอดลักษณะ และรายละเอียดทั้ง มวล จาก อดีต มาถึงปัจจุบันและจากปัจจุบันที่จะสืบทอดต่อไปในอนาคตได้นั้น ก็ด้วยอาศัยภาษาเป็นเครื่องมือทั้งโดยการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และการเล่าจดจำสืบกันต่อมาจึงมีคำกล่าวว่า ภาษาไทยจึงเป็นหัวใจของวัฒนธรรม ถ้าปราศจากจากหัวใจคือภาษาเสียแล้ว วัฒนธรรมก็สืบทอดไม่ได้และต้องสูญหายไปโดยเร็วขณะที่ภาษาไทยทำหน้าที่สืบทอดวัฒนธรรมไทยนั้น ภาษาไทยยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในแง่เป็นเครื่องสื่อความหมายทางวัฒนธรรมด้วย
ความสำคัญของภาษา ภาษามีประโยชน์มากมาย ได้แก่ ภาษาช่วยธำรงสังคม ภาษาแสดงความเป็นปัจเจกบุคคล ภาษาช่วยให้มนุษย์พัฒนา ภาษาช่วยกำหนดอนาคต ภาษาช่วยจรรโลงใจ
.ภาษาช่วยธำรงสังคม
สังคมจะธำรงอยู่ได้มนุษย์ต้องมีไมตรีต่อกัน ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และระเบียบวินัยของสังคมและประพฤติตนให้เหมาะสมแก่ฐานะตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยภาษา คือ
– ภาษาใช้แสดงไมตรีจิตต่อกัน เช่น การทักทายปราศรัยกัน
– ภาษาใช้แสดงกฎเกณฑ์ของสังคมว่าคนในสังคมควรปฏิบัติตนอย่างไร เช่น ศีล ๕ เป็นแนวทางปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน
– ภาษาใช้แสดงความสัมพันธ์ของบุคคล แต่ละบุคคลมีฐานะ บทบาท และความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นต่างๆ กันไป การใช้ภาษาจึงแสดงฐานะและบทบาทในสังคมด้วย
มนุษย์อาศัยภาษาถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ต่อๆ กันมา ทำให้ความรู้แพร่ขยายมากยิ่งขึ้น มนุษย์ไม่ต้องเสียเวลาเรื่องทุกเรื่องใหม่ แต่สามารถพัฒนาค้นคว้าต่อให้เจริญก้าวหน้าต่อไป บางครั้งเมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันก็จะใช้ภาษาอภิปรายโต้แย้งกัน ทำให้ความรู้ความคิดเจริญงอกงามยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาษาเขียนจะช่วยบันทึกเรื่องราวความรู้ต่างๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป
.ภาษาช่วยกำหนดอนาคต
มนุษย์อาศัยภาษาช่วยกำหนดอนาคตในรูปแบบต่างๆ เช่น ทำแผน ทำโครงการ คำสั่ง สัญญา คำพิพากษา กำหนดการ คำพยากรณ์ ซึ่งจะเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ในบางกรณีสิ่งที่กำหนดล่วงหน้าไว้นี้อาจไม่เป็นไปตามนั้นก็ได้ เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน
. ภาษาช่วยจรรโลงใจ
การจรรโลงใจ คือ ค้ำจุนจิตใจให้มั่นคง ไม่ตกอยู่ในอำนาจฝ่ายต่ำ โดยปกติมนุษย์ต้อง
การได้รับความจรรโลงใจอยู่เสมอ มนุษย์จึงอาศัยภาษาช่วยให้ความชื่นบาน ให้ความเพลิดเพลิน เช่น บทเพลง นิทาน คำอวยพร ฯลฯ ทำให้สังคมดำรงอยู่ได้ด้วยดี ภาษามีความสำคัญสำหรับมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอิทธิพลต่อมนุษย์ด้วย ทั้งนี้ เพราะมนุษย์ไม่ได้คิดว่าภาษาเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ใช้แทนเท่านั้น เช่น การตั้งชื่อก็จะหลีกเลี่ยงคำที่มีเสียงคล้ายคลึงกับสิ่งไม่ดี สิ่งที่น่ารังเกียจ หรือมีความหมายไม่เป็นมงคล หรือการถูกนินทาก็จะเสียใจ ได้รับคำชมก็ดีใจ ดังกล่าวนี้ในบางครั้งมนุษย์ก็ยึดมั่นกับตัวอักษรโดยไม่พิจารณาเหตุผล การที่ภาษาช่วยจรรโลงจิตใจของมนุษย์จะช่วยให้สังคมอยู่ได้ด้วยดี ทำให้โลกสดชื่นเบิกบาน ช่วยคลายเครียด
อ้างอิง
http://www2.srp.ac.th/~anurat/importain.htm
http://www2.srp.ac.th/~anurat/importain.htm
สรุป
ความสำคัญของภาษาการที่ภาษาช่วยจรรโลงจิตใจของมนุษย์จะช่วยให้สังคมอยู่ได้ด้วยดี ทำให้โลกสดชื่นเบิกบาน ช่วยคลายเครียดภาษาใช้แสดงความสัมพันธ์ของบุคคล แต่ละบุคคลมีฐานะ บทบาท และความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นต่างๆ กันไป การใช้ภาษาจึงแสดงฐานะและบทบาทในสังคมด้วย
ความสำคัญของภาษาการที่ภาษาช่วยจรรโลงจิตใจของมนุษย์จะช่วยให้สังคมอยู่ได้ด้วยดี ทำให้โลกสดชื่นเบิกบาน ช่วยคลายเครียดภาษาใช้แสดงความสัมพันธ์ของบุคคล แต่ละบุคคลมีฐานะ บทบาท และความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นต่างๆ กันไป การใช้ภาษาจึงแสดงฐานะและบทบาทในสังคมด้วย
3. ระดับของภาษา
1. เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ระดับภาษา ครูฮาดี บินดู่เหล็ม โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล
2. ระดับภาษา ระดับภาษา คือ การใช้ภาษาพูดหรือภาษาเขียน ในโอกาสที่แตกต่าง หรือใช้กับผู้รับสารแต่ละ บุคคลย่อมมีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันไป
3.ระดับภาษา ระดับที่เป็นทางการ ( แบบแผน ) ระดับที่ไม่เป็นทางการ ( ไม่เป็นแบบแผน ) ระดับทางการ ( แบบแผน ) ระดับกึ่งทางการ ( กึ่งแบบแผน ) ระดับไม่เป็นทางการ (ไม่เป็นแบบแผนหรือภาษาปาก ) ระดับพิธีการ ระดับทางการ ระดับกึ่งทางการ ระดับไม่เป็นทางการ : ระดับสนทนา ระดับปาก (กันเอง)
4. ระดับของภาษาแบ่งตาม การใช้ภาษาตามสัมพันธภาพ ของบุคคล ตามโอกาสและกาลเทศะ แบ่งออกเป็น ๕ ระดับ ภาษาระดับพิธีการ ภาษาระดับทางการ ภาษาระดับกึ่งทางการ ภาษาระดับสนทนา ภาษาระดับกันเอง
5. ๑. ภาษาระดับพิธีการ เป็นภาษาที่มีการเลือกสรรถ้อยคาในระดับสูง ไพเราะ สละสลวย โอกาสที่ใช้ภาษาระดับนี้จะเป็นงานพิธีที่มีความสาคัญ สัมพันธภาพระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสารจะเป็นในลักษณะการ สื่อสาร แบบทางเดียว เช่น คากราบบังคมทูลในงานพระราชพิธี พระบรมราโชวาท สุนทร พจน์ วรรณคดีมรดก เป็นต้น
6. ตัวอย่าง เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเจริญพระ ชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ปวงประชาชาวไทยขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัย ขอให้ สิ่งศักด์ิสิทธ์ิอันทรงมหาพลานุภาพทั้งหลาย จงโปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาทจงเจริญด้วยมิ่งมหาศุภสวัสด์ิ เจริญพระชนมพรรษานับหมื่น ๆ ศตพรรษ สถิตเสถียรเป็นร่มโพธ์ิทองของปวงประชาชาวไทย ตราบชั่วกัลปาวสาน ( ภาวาส บุนนาค . “ ราชาภิสดุดี ” ใน ภาษาพิจารณ์ เล่ม ๒, หน้า ๑๓๙.)
7. ๒. ภาษาระดับทางการ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาษาแบบแผน เป็นภาษาที่มีการเลือกสรรถ้อยคาอย่างถูกต้องตามแบบแผนของ ภาษาไทยที่ดี ใช้ถ้อยคาสุภาพ อาจมีการใช้ศัพท์ทางวิชาการปะปนอยู่ ด้วย เกิดขึ้นเนื่องจากตาแหน่งหน้าที่ หรือการติดต่อประสานงานที่เป็น ทางการเท่านั้น เช่น การเขียนรายงานทางวิชาการ งานวิจัย ตา รา บทความทางวิชาการ หนังสือราชการ เป็นต้น
8.ตัวอย่าง ขอพระบรมเดชานุภาพมหึมาแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชจง คุ้มครองประเทศชาติและประชาชนชาวไทยให้ผ่านพ้นสรรพอุปัทว์พิบัติภัยทั้ง ปวง อริราชศัตรูภายนอกอย่าล่วงเข้าทาอันตรายได้ ศัตรูหมู่พาลภายในให้วอด วายพ่ายแพ้ภัยตัว บันดาลความสุขความมั่นคงให้บังเกิดทั่วภูมิมณฑล บันดาล ความร่มเย็นแก่อเนกนิกรชนครบคามเขตขอบขัณฑสีมา
9. ๓. ภาษาระดับกึ่งทางการ เป็นภาษาที่ใช้เพื่อการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจกันด้วยความรวดเร็ว ลดความเป็นทางการลงบ้าง เพื่อให้เกิดความใกล้ชิดยงิ่ขึ้นระหว่างผู้ ส่งสารและผู้รับสาร มักใช้ในการปรึกษาหารือกิจธุระระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคล การ ประชุมกลุ่ม การปรึกษางาน การวางแผนร่วมกัน ฯลฯ มีการเปิดโอกาสให้ผู้รับสารมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นร่วมกับผู้ ส่งสาร เช่น วารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ บทบรรยายในนวนิยาย
10. ตัวอย่าง “… หนังเรื่องนี้มีโครงเรื่องหลักอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงของ ภูมิอากาศโลกในองค์รวม อันเป็นผลพวงจากปฏิกิริยาเรือนกระจก หรือ green house effect ซึ่งเกิดจากน้ามือมนุษย์โลกอย่างเราๆทั้งนั้น ไม่ว่า จะเป็นการเผาไหม้เชื้อเพลิงให้เกิดความร้อนและควันลอยขึ้นไปเกิดเป็น ชั้นห่อหุ้มโลกไว้ ส่งผลให้รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมายัง โลกสะท้อนกลับออกไปในห้วงอวกาศไม่ได้โลกเลยกลายเป็นเตาอบยักษ์ ที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ…” (ชาธร สิทธิเคหภาค, ๒๕๔๗: ๑๑๒)
11.๔. ภาษาระดับสนทนา (ไม่เป็นทางการ) เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีความสัมพันธ์ยังไม่ถึง ขั้นสนิทสนม ใช้เฉพาะการพูด การสนทนาในชีวิตประจาวัน เช่น การพูดจากัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนที่มาติดต่องาน หรือการแนะ นาตัวใน งานสังคม โดยที่บุคคลที่เกี่ยวข้องไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มักจะนาไปใช้ถ่ายทอดในงานเขียนเรื่องบันเทิงคดี เช่น บทสนทนา ในนวนิยายหรือเรื่องสั้น บทละคร การเขียนบันทึกส่วนตัว เป็นต้น
12.ตัวอย่าง บทความเรื่องเขาอีโต้ สถานีความมันเชิงเขาใหญ่ ในคอลัมน์BikeLine ความว่า “...ความตั้งใจในการเดินทางของผมครั้งนี้อยู่ที่การหาเส้นทาง ซอกแซกไปที่น้าตกเหวอีอ่า ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ความตั้งใจมิเป็นผล เมื่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่หน่วยพิทักษ์ป่าคลองเพกาปฏิเสธอย่างนิ่มนวลว่า ไม่ สามารถอนุญาตให้ขึ้นไปปั่นจักรยานได้ เนื่องจากยังไม่มีนโยบายให้ปั่น จักรยานขึ้นไปเที่ยวน้าตกเหวอีอา่ ซึ่งคงจะต้องรอไปอีกพักใหญ่ๆ เพราะอยู่ ในช่วงสารวจจัดทาเส้นทาง โดยทางอุทยานฯมีแนวคิดที่จะเปิดให้จักรยานเสือ ภูเขาขึ้นไปอยู่แล้ว แต่เมื่อไหร่ยังไม่ทราบ เป็นคา ปฏิเสธที่นุ่มนวล เราจึงได้แต่ น้อมรับโดยดี…” (หมูหวาน, ๒๕๔๗: ๗๒)
13.๕. ภาษาระดับปาก หรือภาษาระดับกันเอง เป็นภาษาที่ใช้ในวงจากัด ใช้กับบุคคลที่สนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นพิเศษ เช่น ระหว่างเพื่อนสนิท บุคคลในครอบครัว สื่อสารกันในเนื้อหาที่รับรู้กันได้เฉพาะคู่สนทนาเท่านั้น สถานที่ใช้มักเป็นที่ส่วนตัว เช่น ที่บ้าน เน้นความสนุกสนาน ไม่นิยมบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร สารที่สื่อถึงกันไม่มีขอบเขต แต่มักใช้ในการพูดจากันเท่านั้น อาจปรากฏอยู่ในบทสนทนานวนิยายหรือเรื่องสั้นเพอื่ความสมจริง บทความเสียดสีล้อเลียนในหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
14.ตัวอย่าง บทสนทนาจากนวนิยายเรื่องมายาตะวัน กล่าวว่า “เออ นังบ้า ไป ไปนั่งรวมกันที่เก้าอี้โน่น จาไว้ ถ้าคิดหนีฉันยิงจริงๆ ไอ้ชิด เอ็งดูนังสองตัวนี่ให้ดี ถ้ามันไปที่ประตูเมื่อไหร่ยิงมันได้เลย” เชนขู่เสียงเกรี้ยว (กิ่งฉัตร, ๒๕๔๙: ๔๖๒)
15.ภาษาแบบแผน ภาษาที่ เป็นทางการ ตัวอย่าง ภาษากึ่งแบบแผน ภาษากึ่งทางการ ภาษาปาก ภาษาไม่เป็นทางการ ขา้พเจ้า กระผม ดิฉัน ผม ฉนั เรา ผม ฉนั หนู บิดา คุณพ่อ พ่อ มารดา คุณแม่แม่ โรงภาพยนตร์ โรงหนัง โรงหนัง ใบอนุญาตขับรถยนต์ใบขับขี่ใบขับขี่ หนังสือรับรอง ใบรับรอง ใบรับรอง ดวงตราไปรษณียากร แสตมป์ แสตมป์ กรงุเทพมหานคร กรงุเทพ ฯ บางกอก ศีรษะ หัว กบาล ฌาปนกิจศพ ปลงศพ เผาศพ ประทับตรา ตีตรา ตีตรา ปั๊มตรา รับประทาน กิน ยัด แดก ซัด กิน ยัด แดก ซัด ดมื่สุรา ดมื่เหล้า กินเหล้า ถองเหล้า ซัดเหล้า
16.หลักการใช้ภาษาให้ถูกต้องตามระดับภาษา การใช้ภาษาระดับใดในการสื่อสารจึงจะเหมาะสมนั้น ควรพิจารณาดังนี้ ๑.สัมพันธภาพระหว่างบุคคล ๒. กาลเทศะ ๓. เนื้อของสาระ ๔. วิธีการสื่อสาร
อ้างอิง
http://www.slideshare.net/thaisubject/ss-41933082
สรุป
ระดับของภาษา การใช้ภาษาพูดหรือภาษาเขียน ในโอกาสที่แตกต่าง หรือใช้กับผู้รับสารแต่ละ บุคคลย่อมมีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันไปเป็นภาษาที่มีการเลือกสรรถ้อยคาอย่างถูกต้องตามแบบแผนของ ภาษาไทยที่ดี ใช้ถ้อยคาสุภาพ อาจมีการใช้ศัพท์ทางวิชาการปะปนอยู่ ด้วย
ระดับของภาษา การใช้ภาษาพูดหรือภาษาเขียน ในโอกาสที่แตกต่าง หรือใช้กับผู้รับสารแต่ละ บุคคลย่อมมีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันไปเป็นภาษาที่มีการเลือกสรรถ้อยคาอย่างถูกต้องตามแบบแผนของ ภาษาไทยที่ดี ใช้ถ้อยคาสุภาพ อาจมีการใช้ศัพท์ทางวิชาการปะปนอยู่ ด้วย
4. ทักษะการสอนและเทคนิคการสอน
ทักษะ คือ การพูดของผู้สอนว่ามีเนื้อหาที่น่าสนใจและวิธีการพูดโน้มน้าวผู้เรียนต่างๆ และทักษะการเคลื่อนไหว ผู้สอนควรจะเคลื่อนไหว ผู้สอนอย่างไรให้เหมาะสมกริยาท่าทางต่างๆที่ผู้สอนเคลื่อนไหวในชั้นเรียนและตลอดเวลาการสอนและหมายถึงความคล่องแคล้ว ความชำนาญในการสอน
เทคนิค คือ กลวิธีและรูปเล่มที่ใช้เสริมกระบวนการสอน ขั้นตอนหรือกระบวนการต่างๆ
การสอน คือ การถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์เทคนิคการใช้วาจากิริยา ท่าทางประกอบการสอน
1.การเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนอิริยาบท
เริ่มแรกที่เข้ามาในห้องเรียนครูควรเดินด้วยท่าทางที่เหมาะสมสง่างามและดูเป็นธรรมชาติ
2.การใช้มือแลแขน
ใช้มือประกอบท่าทางในการพุด ซึ่งจะเป็นสิ่งดึงดุดใจของนักเรียน เพราะนักเรียนสนใจดูสิ่งเคลื่อนไหวมากกว่าสิ่งที่นิ่ง
3.การแสดงออกทางสีหน้า สายตาการแสดงออกทางหน้าตา สายตา เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้สื่อความหมายกับผู้เรียน ผู้เรียนจะเข้าใจถึงความรู้สึก หรือเข้าใจในอารมณ์การสอน ในการสอนบทเรียนที่มีความตื่นเต้น สีหน้าของครูต้องคล้อยตามสัมพันธ์กับความรู้สึกดังกล่าวด้วย
4.การทรงตัวและการวางท่าทางควรวางท่าให้เหมาะสม ไม่ดูตรึงเครียด หรือเกรงเกินไป ควรวางท่าทางและทรงตัวขณะสอนให้ดูเป็นธรรมชาติแต่ก็ไม่ดูปล่อยตามสบายจนเกินไป
5.การใช้น้ำเสียงควรใช้น้ำเสียงที่ชัดเจนเหมาะสม ไม่ช้า ไม่เร็วจนเกินไป มีการออกเสียงการใช้ถ้อยคำถูกต้อง ไม่แสดงอารมณ์ที่ไม่สมควรออกทางน้ำเสียงเพราะโดยปกติแล้วน้ำเสียงของครูสามารถบอกอารมณ์ได้และความรู้สึกของครูได้อย่างดี ถ้าครูเสียงดีนักเรียนก้จะมีความรู้สึกที่ดีต่อครู
6.การแต่งกายครูควรแต่งกายให้ถุกต้องเหมาะสมเพราะถ้าครูแต่งกายสวยเดนจนเกินไปทำให้นกเรียนจะให้ความสนใจกับครูมากกว่าบทเรียน ผู้สอนควรแต่งกายให้เรียบร้อยคุณลักษณะทั่วไป
๑ . มั่นใจในตนเอง เตรียมพร้อม ซ้อมดี มีสื่อและวิธีการ ที่เหมาะสม
๒ . เป็นคนช่างสังเกต คอยสังเกตพฤติกรรมทางกาย วาจา ตลอดจนกระบวนการกลุ่มของผู้เข้ารับการอบรม
๓ . มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
๔ . แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง
๕ . มีการวางแผนที่ดี ทั้งเนื้อหาและลำดับขั้นตอนการนำเสนอรวมทั้งสื่อและเครื่องมือการสื่อสาร
๖ . มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีและประสานงานเก่ง
๗ . มีบุคลิกภาพที่ดี
๘ . มีความเป็นกัลยาณมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเอง คอยช่วยเหลือด้วยน้ำใจ มีความเมตตา ยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคลและมีความเห็นใจของผู้เข้ารับากรอบรม
๙ . เป็นนักประชาธิปไตย มีความยืดหยุ่น รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่สรุปตัดบทง่าย ๆ เมื่อมีผู้เสนอความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป
๑๐ . มีความจิรงใจในการถ่ายทอดความรู้
๑๑ . ปฏิบัติตนต่อผู้เข้ารับการอบรมอย่างเสมอภาค ทัดเทียม วางตนเหมาะสมกับทุกคน
ทักษะ คือ การพูดของผู้สอนว่ามีเนื้อหาที่น่าสนใจและวิธีการพูดโน้มน้าวผู้เรียนต่างๆ และทักษะการเคลื่อนไหว ผู้สอนควรจะเคลื่อนไหว ผู้สอนอย่างไรให้เหมาะสมกริยาท่าทางต่างๆที่ผู้สอนเคลื่อนไหวในชั้นเรียนและตลอดเวลาการสอนและหมายถึงความคล่องแคล้ว ความชำนาญในการสอน
เทคนิค คือ กลวิธีและรูปเล่มที่ใช้เสริมกระบวนการสอน ขั้นตอนหรือกระบวนการต่างๆ
การสอน คือ การถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์เทคนิคการใช้วาจากิริยา ท่าทางประกอบการสอน
1.การเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนอิริยาบท
เริ่มแรกที่เข้ามาในห้องเรียนครูควรเดินด้วยท่าทางที่เหมาะสมสง่างามและดูเป็นธรรมชาติ
2.การใช้มือแลแขน
ใช้มือประกอบท่าทางในการพุด ซึ่งจะเป็นสิ่งดึงดุดใจของนักเรียน เพราะนักเรียนสนใจดูสิ่งเคลื่อนไหวมากกว่าสิ่งที่นิ่ง
3.การแสดงออกทางสีหน้า สายตาการแสดงออกทางหน้าตา สายตา เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้สื่อความหมายกับผู้เรียน ผู้เรียนจะเข้าใจถึงความรู้สึก หรือเข้าใจในอารมณ์การสอน ในการสอนบทเรียนที่มีความตื่นเต้น สีหน้าของครูต้องคล้อยตามสัมพันธ์กับความรู้สึกดังกล่าวด้วย
4.การทรงตัวและการวางท่าทางควรวางท่าให้เหมาะสม ไม่ดูตรึงเครียด หรือเกรงเกินไป ควรวางท่าทางและทรงตัวขณะสอนให้ดูเป็นธรรมชาติแต่ก็ไม่ดูปล่อยตามสบายจนเกินไป
5.การใช้น้ำเสียงควรใช้น้ำเสียงที่ชัดเจนเหมาะสม ไม่ช้า ไม่เร็วจนเกินไป มีการออกเสียงการใช้ถ้อยคำถูกต้อง ไม่แสดงอารมณ์ที่ไม่สมควรออกทางน้ำเสียงเพราะโดยปกติแล้วน้ำเสียงของครูสามารถบอกอารมณ์ได้และความรู้สึกของครูได้อย่างดี ถ้าครูเสียงดีนักเรียนก้จะมีความรู้สึกที่ดีต่อครู
6.การแต่งกายครูควรแต่งกายให้ถุกต้องเหมาะสมเพราะถ้าครูแต่งกายสวยเดนจนเกินไปทำให้นกเรียนจะให้ความสนใจกับครูมากกว่าบทเรียน ผู้สอนควรแต่งกายให้เรียบร้อยคุณลักษณะทั่วไป
๑ . มั่นใจในตนเอง เตรียมพร้อม ซ้อมดี มีสื่อและวิธีการ ที่เหมาะสม
๒ . เป็นคนช่างสังเกต คอยสังเกตพฤติกรรมทางกาย วาจา ตลอดจนกระบวนการกลุ่มของผู้เข้ารับการอบรม
๓ . มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
๔ . แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง
๕ . มีการวางแผนที่ดี ทั้งเนื้อหาและลำดับขั้นตอนการนำเสนอรวมทั้งสื่อและเครื่องมือการสื่อสาร
๖ . มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีและประสานงานเก่ง
๗ . มีบุคลิกภาพที่ดี
๘ . มีความเป็นกัลยาณมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเอง คอยช่วยเหลือด้วยน้ำใจ มีความเมตตา ยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคลและมีความเห็นใจของผู้เข้ารับากรอบรม
๙ . เป็นนักประชาธิปไตย มีความยืดหยุ่น รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่สรุปตัดบทง่าย ๆ เมื่อมีผู้เสนอความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป
๑๐ . มีความจิรงใจในการถ่ายทอดความรู้
๑๑ . ปฏิบัติตนต่อผู้เข้ารับการอบรมอย่างเสมอภาค ทัดเทียม วางตนเหมาะสมกับทุกคน
๑๒ . มีแบบฉบับลีลาที่เป็นของตนเองยอมรับจุดเด่นและจุดด้อยของตนและ มึความภูมิใจและเข้าใจ ในบุคลิกภาพของตนเอง และใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ
สรุป
ทักษะทางภาษาแบ่งทักษะออกเป็น 4 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนคุณลักษณะทั่วไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)